บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2019

เกาะอีสเตอร์

รูปภาพ
เกาะอีสเตอร์ เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) หรือเกาะราปานูอี (Rapa Nui) เป็นเกาะขนาดเล็กตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากฝั่งประเทศชิลีไปทางทิศตะวันตกกว่า 3,600 กิโลเมตร นักสำรวจชาวดัตช์เป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกที่เดินทางมาพบเกาะนี้ในปี 1722 ในวันอีสเตอร์พอดีจึงตั้งชื่อเป็นเกาะอีสเตอร์ แม้ว่าจะเป็นเกาะเล็กๆที่อยู่โดดเดี่ยวห่างไกลแต่กลับต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาปีละนับแสนคน มนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวนอกจากความงดงามตามธรรมชาติก็คือรูปปั้นโมอายที่โดดเด่นนั่นเอง https://www.takieng.com/stories/5207 back

สโตนเฮนจ์

รูปภาพ
สโตนเฮนจ์ สโตนเฮนจ์มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะที่เป็นกลุ่มหินประหลาดซึ่งไม่มีใครทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างชัดเจน และเมื่อพิจารณาถึงอายุของมันแล้ว คาดว่ากลุ่มกองหินประหลาดนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ต่างสงสัยว่า คนในสมัยก่อนสามารถยกแท่งหินที่มีน้ำหนักกว่า 30 ตัน ขึ้นไปวางเรียงกันได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ปราศจากเครื่องทุ่นแรงอย่างที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน และที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ ในบริเวณที่ราบดังกล่าว ไม่ใช่บริเวณที่จะมีก้อนหินขนาดมหึมานี้ ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่าผู้สร้างต้องทำการชักลากแท่งหินยักษ์ทั้งหมด มาจากที่อื่น ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากบริเวณที่เรียกว่า “ทุ่งมาล์โบโร” ที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 40 กิโลเมตรเลยทีเดียว https://www.tumnandd.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94-%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%99/ back

วิหารพาร์เธนอน

รูปภาพ
วิหารพาร์เธนอน ตามตำนานกรีกเล่าว่า ที่มาของชื่อเมืองเอเธนส์ (Athens) นั้น มาจากการที่ชาวกรีกจะตั้งชื่อเมืองแต่ไม่รู้จะใช้ชื่ออะไร โพไซดอน เทพแห่งมหาสมุทร ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของอธีนา ใช้ตรีศูลอาวุธของตนสร้างม้าขึ้นมา(บ้างก็ว่าสร้างน้ำพุขึ้น) ชาวเมืองต่างพากันชื่นชมม้าเป็นอันมาก แต่เทพีอธีนาได้เนรมิตต้นมะกอกขึ้นมา ซึ่งสามารถใช้ผลเป็นประโยชน์ได้ นอกจากนี้ มะกอก ยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ในขณะที่ม้าเป็นสัญลักษณ์ของสงคราม ชาวเมืองจึงตกลงใช้ชื่อเมืองว่า เอเธนส์ ตามชื่อของพระนาง และมะกอกก็กลายเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญอันดับหนึ่งของกรีซมาจนปัจจุบัน https://99abc9.wordpress.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B4/ back

แอตแลนติส

รูปภาพ
แอตแลนติส นักปรัชญาชาวกรีก เขากล่าวถึงแอตแลนติสไว้ราวกับว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นดังดินแดนแห่งความฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์แบบไปหมด ผู้สร้างอาณาจักรเป็นครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ ส่วนชาวแอตแลนติสเองก็เป็นนักรบทางน้ำที่เก่งกาจ https://www.silpa-mag.com/news/article_24704 back

หอไอเฟล

รูปภาพ
หอไอเฟล เรามาทำความรู้จักกับหอไอเฟลกันนิดนึง หอไอเฟลเป็นหอคอยสร้างด้วยโครงเหล็ก สูงถึง 300 เมตร ตั้งอยู่บนถนน ชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอคอยแห่งนี้เป็นเสมือนสัญญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ คือ“กุสตาฟ ไอเฟล” เป็นวิศวกรและสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นปรมาจารย์ในด้านการก่อสร้างด้วยเหล็กและมีความสามารถในการสร้างสะพาน เป็นต้นว่า สะพานข้ามแม่น้ำดูโร (Douro) ในตอนเหนือของประเทศโปรตุเกส ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสะพานที่มีช่วงกว้างที่สุดในเวลานั้น ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นงานศิลปะชิ้นเอกในงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพในปี ค.ศ.1890 เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ ความร่ำรวย และความสำเร็จในยุคอุตสาหกรรมของประเทศ http://eurofollowme.com/%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%A5-%E0%B8%9B%E0%B8%A3/ back

พีระมิด

รูปภาพ
พีระมิด มหาพีระมิดแห่งอียิปต์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ เพียงสิ่งเดียวที่ยังคงสภาพ เกือบสมบูรณ์เหมือนในอดีต ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ณ เมืองกิซ่า ตอนเหนือของกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ ประกอบไปด้วยพีระมิด ใหญ่  3  องค์ คือ พีระมิดที่บรรจุพระศพของฟาโรห์ คีออปส์ ( Cheops) คีเฟรน ( Chephren)  และไมเซอรินัส ( Mycerinus) พีระมิดเป็นสิ่งก่อสร้างรูปกรวยเหลี่ยมใช้เพื่อเป็นที่เก็บมัมมี่หรือพระศพของ ฟาโรห์นั่นเอง แต่ก่อนจะมาเป็นพีระมิดนั้น ที่ฝังศพในยุคแรกๆของกษัตริย์และ ราชวงศ์รวมถึงขุนนางชั้นสูง นิยมใช้หินก่อเป็นห้องลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลังคา แบนราบทับอยู่บนที่ฝังศพ เรียกกันว่ามาสตาบา ( Mastaba)  มีช่องทางลง ไปยังที่เก็บศพหรือหลุมศพจากด้านหลังคา ภายในวาดภาพหรือสลักภาพต่างๆบอก เล่าเรื่องราวของเจ้าของสุสาน ต่อมาฟาโรห์โซเซอร์ ( Djoser) ในราช วงศ์ ที่  3  ประมาณ  2,600  ปีก่อนคริสต์กาล พระองค์ได้มีคำสั่งให้อิมโฮเทปผู้เป็น สถาปนิกและคนสนิทของพระองค์ ทำการออกแบบและก่อสร้างสุสานสำหรับบรรจุ พระศพของพระองค์ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น อิมโฮเทปจึงออกแบบให้เป็นมาสตาบาก่อซ้อน กันขึ้น